ตีแผ่ “อาการตอนนอน” ของลูกน้อย เรื่องน่ากังวลหรือหายห่วง ตอนที่ 2
- เหงื่อแตก
ในช่วงที่หลับลึกที่สุด ทารกบางคนจะเหงื่อแตกจนเปียกโชกไปหมด
และเด็กทารกก็มีแนวโน้มที่จะเหงื่อแตกในช่วงกลางคืนมากกว่าผู้ใหญ่หรือเด็กโต
เพราะมีช่วงหลับลึกยาวนานกว่ามาก
อาการเหงื่อแตกตอนนอนหลับถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าลูกเหงื่อแตกมากเกินควร
ก็แปลว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ เช่น อาจบ่งชี้ว่าลูกเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด
ติดเชื้อต่างๆ และมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (เหงื่อแตกเพราะหายใจลำบาก)
ถ้าร้อนเกินไป ลูกก็จะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหยุดหายใจกะทันหันในทารก (SIDS)
ห้องที่ลูกนอนจึงควรจะอบอุ่น ไม่ร้อน และจำนวนชั้นของเสื้อผ้าที่ให้ลูกใส่นอนก็ควรจะ
เท่ากับจำนวนชั้นที่คุณใส่แล้วรู้สึกกำลังดี นอนได้สบายๆ โดยไม่ต้องห่มผ้า
เพราะถ้าคุณรู้สึกว่าร้อนเกินไป ลูกก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน พยายามอย่าให้ลูก
ใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น และเก็บพวกผ้าห่ม ผ้านวมให้พ้นจากเตียงลูกด้วย
หากเจ้าตัวเล็กยังนอนเหงื่อแตกทั้งที่ห้องก็ไม่ได้ร้อน และไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ
หรือหลายชั้น ให้ปรึกษาคุณหมอ
- โยกตัว
มีเด็กทารกจำนวนไม่น้อยที่ชอบการเคลื่อนไหวไปๆ มาๆ แบบเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
อย่างการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลของเก้าอี้โยก และบางคนก็กล่อมตัวเองด้วยการโยกตัว
ในท่าคลานหรือท่านั่ง อาจมีพฤติกรรมเอาหัวโขกหรือโคลงหัวร่วมด้วย
โดยจะเริ่มตอนอายุราว 6 เดือน
- วิธีรับมือที่ดีที่สุดคือทำเป็นไม่สนใจ เพราะการโยกตัวในทารกไม่ได้บ่งชี้ถึง
ปัญหาด้านพฤติกรรม หรืออารมณ์ และถ้าลูกรู้สึกได้ว่าคุณพยายามจะยับยั้ง
เขาก็อาจจะมองว่าเป็นความท้าทายและตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไป
- ถ้าหากการโยกตัวในยามวิกาลของลูกดูรุนแรงผิดสังเกต ก็ควรจะเลื่อน
เตียงคอกออกห่างจากผนังห้อง และหมั่นขันสกรูกับสลักเตียง
(ซึ่งอาจจะหลวมเพราะการโยกตัว)ให้แน่นหนา
- เอาหัวโขก
การเอาหัวโขกเป็นพฤติกรรมการกล่อมตัวเองของทารกซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
เช่นเดียวกับการโยกตัว และลูกก็ยังอาจจะเอาหัวโขกเพื่อหันเหความสนใจ
จากความเจ็บปวด (เช่น ตอนฟันขึ้นหรือเป็นโรคหูอักเสบจากการติดเชื้อ) ด้วย
มีเด็กทารกและเด็กวัยเตาะแตะถึง 20 เปอร์เซ็นต์ที่มีพฤติกรรมนี้
และเด็กผู้ชายก็มีแนวโน้มที่จะทำแบบนี้มากกว่าเด็กผู้หญิงถึง 3 เท่า
โดยมักจะเริ่มในช่วงครึ่งหลังของขวบปีแรกและเห็นชัดในช่วงอายุ 1 ขวบ 6 เดือน
ถึง 2 ขวบ และอาจเป็นอยู่หลายเดือนหรือเป็นปี แต่ก็มักจะหายไปเองตอน 3 ขวบ
ช่วงที่ลูกมีพฤติกรรมนี้ คุณควรจะหมั่นขันสกรูและสลักเตียงให้แน่นหนา
แต่ไม่ควรใช้หมอนหรือผ้าห่มเป็นเครื่องกันกระแทก เพราะถึงส่วนใหญ่ เราจะพบภาวะ
หยุดหายใจกะทันหันในทารกในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน แต่ก็อย่าเสี่ยงดีกว่า
การเอาหัวโขกในทารกไม่ได้บ่งชี้ถึงปัญหาด้านพฤติกรรมหรืออารมณ์
แต่คุณก็ควรจะแจ้งให้คุณหมอทราบ เพราะถึงจะพบได้น้อยมาก แต่ในบางกรณี
(โดยเฉพาะในเด็กพัฒนาการช้า) การเอาหัวโขกก็อาจจะเป็นอาการที่บ่งบอกว่า
มีอะไรบางอย่างผิดปกติ
- กัดฟัน
มีทารกกว่าครึ่งที่นอนกัดฟัน และพฤติกรรมนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นในช่วงอายุใดก็ได้
แต่มักพบในเด็กทารกที่ฟันซี่แรกกำลังขึ้น (ตอนอายุราว 6 เดือน) และในเด็กที่
ฟันแท้กำลังขึ้น (ตอนอายุราว 5 ขวบ)
ทารกอาจนอนกัดฟันเพราะฟันขึ้น ปวดหู และมีปัญหาในการหายใจ
(เพราะคัดจมูกหรือเป็นโรคภูมิแพ้) และการกัดฟันก็มักจะไม่ได้ทำให้ฟันลูกเสีย
แต่คุณก็น่าจะแจ้งให้คุณหมอและหมอฟันทราบ (ลูกควรพบหมอฟันครั้งแรกตอน
อายุครบ 1 ขวบ) เพราะพฤติกรรมนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อาจทำลายเคลือบฟัน
และในเด็กบางคนที่กัดฟันรุนแรง ก็อาจทำให้ฟันกร่อนได้